ห้องสมุดมีชีวิต e-Library

สร้างสังคมคุณธรรมรวมพลังต้าทุจริต

กฎหมายรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันโดยประชาชน
           การจะทำให้ประเทศของเราเป็นบ้านเมืองที่ดีปราศจากคอร์รัปชันดูเป็นเรื่องยากเกินฝัน เพราะที่ผ่านมาประชาชนจะพูดหรือทำอะไรก็ยาก ทั้งเกรงกลัวทั้งไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอะไรหรือไปร้องเรียนกับใครได้ มีบ่อยครั้งที่โดนหลอกโดนปิดบังและโดนข่มขู่ จะหวังพึ่งรัฐบาลพึ่งนักการเมืองก็ยังลำบากใจ

             ดังนั้นการที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 63 ให้ “รัฐต้องสนับสนุนและปกป้องการรวมตัวของประชาชนเพื่อต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันของชาติ” จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้าและเหมาะสมอย่างยิ่ง กฎหมายเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญฯ มาตรา 63 ทำให้ต้องมีการออกกฎหมายใหม่ เรียกว่า “ร่าง พ.ร.บ. การส่งเสริมและคุ้มครองประชาชนในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ” เพื่อขยายความหลักการของกฎหมาย รวมถึงกำหนดแนวทาง กลไกและข้อปฏิบัติให้ชัดเจน โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้ มาตรา 63 “รัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวด รวมทั้งกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ ต่อต้านหรือชี้เบาะแสโดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามที่กฎหมายบัญญัติ”

 

ชุดความรู้การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม (ม.100)

สังคมไทยมีความหวังมากขึ้นในการกำจัดคอร์รัปชัน เพราะความรู้และทัศนคติของคนไทยต่อพฤติกรรมโกงกินได้เปลี่ยนไปมาก จากเคยยอมจำนนว่าเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำกัน และเป็นหน้าที่ของรัฐบาล หรือ ป.ป.ช. ในการป้องกันและไล่จับคนโกง มาวันนี้คนส่วนใหญ่นอกจากจะปฏิเสธและรังเกียจการโกงกินแล้ว ยังพยายามเข้ามามีส่วนร่วมลงไม้ลงมือในการแก้ปัญหา ไม่ดูดายปล่อยตามยถากรรมให้เป็นเรื่องของราชการอีกต่อไป ความเข้มแข็งในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอร์รัปชันของภาคประชาชนจึงก้าวหน้าอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial